Cisco Systems เป็นบริษัทสัญชาติในอเมริกาที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตฮาร์ดแวร์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น เราเตอร์ Ethernet switches และเซิร์ฟเวอร์ packet tracer เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุดที่ผลิตโดยบริษัท Cisco Systems เป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ถูกนำมาใช้ในการเรียนด้านเครือข่ายหรือสายงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับคนที่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร Packet Tracer เป็นเครื่องจำลองระบบข้ามแพลตฟอร์มเพื่อช่วยผู้ใช้เลียนแบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ต้องการได้
โปรแกรม Cisco Packet Tracer สามารถทำงานบน iOS, Linux และ Windows ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรง อีกคุณสมบัติที่สำคัญคือสามารถนำไปใช้งานได้บนระบบปฏิบัติการ Android ถือเป็นด้วยหน้าตาที่ดูทันสมัยพร้อมกับคุณสมบัติในการลากวางคำสั่ง ทำให้มันเป็นโปรแกรมที่มีประโยชน์มากในการศึกษาสำหรับนักเรียนและผู้เชี่ยวชาญด้านเครือข่าย ช่วยให้สร้างโครงสร้างที่มีความซับซ้อนเพียงแค่ลากวางรายการเช่น เราเตอร์ สวิตช์ และส่วนประกอบเครือข่ายอื่นๆ
ข้อดีข้อเสียของโปรแกรม Cisco Packet Tracer
มันเป็นโปรแกรมจำลองเครือข่ายที่ทรงพลังมากในปัจจุบันนี้ เพราะใครๆ ก็ต่างเลือกใช้เป็นอันดับแรก โปรแกรมนี้ช่วยให้นักเรียนในสาขาไอทีสามารถทดลองกับพฤติกรรมการแก้ไขปัญหาโดยไม่ต้องซื้อเราเตอร์หรือสวิตช์ของซิสโก้ด้วยเงินจริงเพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีราคาแพงมาก มันช่วยให้เรารู้วิธีในสร้างเครือข่ายด้วยจำนวนอุปกรณ์สูงสุด อย่างไรก็ตามมันมีข้อจำกัดอยู่เช่นกัน เนื่องจากโปรแกรมมีฟังชันให้ใช้ไม่เยอะเท่ากับของจริง นอกจากนี้ยังมีชุดคำสั่งที่จำกัด ซึ่งทำให้ไม่เหมาะสมที่จะใช้ในการสร้างแบบจำลอง ดังนั้นมันจึงใช้เป็นเพียงเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่อาจนำมาใช้วางแผนได้ในงานจริง
โปรแกรมนี้ทำงานด้วยระบบ 2 อย่างได้แก่ โหมดจำลอง กับ โหมดเรียลไทม์ ซึ่งมีความแตกต่างที่สำคัญระหว่างโหมดแต่ละโหมด เช่นในในเรียลไทม์ Packet Tracer จะทำหน้าที่เหมือนอุปกรณ์จริงมันจะตอบสนองแบบเรียลไทม์ต่อการเปลี่ยนแปลงในเครือข่ายภายในเครือข่าย ส่วนโหมดจำลองอนุญาตให้ผู้ใช้ควบคุมช่วงการทำงานของการถ่ายโอนข้อมูล และควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเครือข่าย โหมดเรียลไทม์เป็นทางเลือกที่จะได้ทำลองทำงานกับอุปกรณ์เสมือนจริงซึ่งอาจมีราคาแพงหากต้องไปซื้อมา ส่วนโหมดการจำลองสามารถเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการทำความเข้าใจพื้นฐานของเครือข่ายรวมถึงคุณสมบัติของแต่ละอุปกรณ์
เนื่องจากระบบเครือข่ายและระบบมีความซับซ้อนมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องมีวิธีการใหม่ในการสอน หรือเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเครือข่ายที่สะดวกยิ่งขึ้น สำหรับในห้องเรียนมันชวยให้นักเรียนมีพัฒนาทักษะอย่างหลายเช่นการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การตัดสินใจ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินมากมายเพียงเพื่อการเรียนรู้ ถือได้ว่าช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเราได้เป็นอย่างมาก