หลายๆ คนที่มีความสนใจในการที่จะสร้างเว็บไซต์เพื่อวัตถุประสงค์ใดก็แล้วแต่ต่างก็จำเป็นที่จะต้องให้ความสนใจในเรื่องราวต่างๆ มากมายที่เกี่ยวข้องกับการทำเว็บไซต์ด้วยกันทั้งสิ้น ซึ่งถ้าเป็นคนที่เรียนมาหรือเคยศึกษาเรื่องราวต่างๆ ในด้านนี้ก็จะไม่ค่อยเป็นปัญหาสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าเป็นคนที่ยังไม่มีความรู้ใดๆ ทั้งสิ้นและต้องการที่จะเรียนรู้การทำเว็บไซต์เชื่อว่าสิ่งแรกที่ต้องเกิดคำถามก็คือระหว่าง Web Server กับ Web Hosting มีความแตกต่างกันอย่างไร และมันคืออะไรกันแน่ ลองมาหาคำตอบจากทั้ง 2 เรื่องราวนี้ดูและจะทำให้คุณเข้าใจมันมากขึ้น
ความหมายและหน้าที่ของ Web Server
ขออธิบายให้เข้าใจง่ายและเห็นภาพมากที่สุด Web Sever ก็คือคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง แต่ความพิเศษของเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นก็คืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีอยู่จะค่อนข้างมีความแข็งแกรง ทนทาน และมีความรวดเร็วมากกว่าคอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไปที่เราเห็นกันอยู่ตามบ้านเรือนหรือตามออฟฟิศ นอกจากนี้ยังจำเป็นที่จะต้องอยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ และก็จำเป็นจะต้องมีเครื่องสำรองไฟให้ด้วยเพราะหากว่าไฟตกหรือไฟมีปัญหาแล้วไม่มีเครื่องสำรองไฟรับรองว่าจะยุ่งกันอย่างใหญ่หลวงแน่นอน ซึ่งหน้าที่ของ Web Server ก็คือ จะทำการประมวลผลและทำการเก็บรายละเอียดข้อมูลของเว็บไซต์แต่ละเว็บไซต์เอาไว้เพื่อทำการประมวลผลคนที่เลือกเข้ามาดูในเว็บของตัวเอง ซึ่งใน 1 server นั้นจะไม่ได้มีแค่เว็บไซต์เดียวเนื่องจากว่า server เหล่านี้จะมีราคาแพงมาก จึงทำให้หลายๆ บริษัทเลือกที่จะแบ่งขายออกมา เช่น server มี harddisk 500 GB ก็อาจจะแบ่งออกได้เป็น 500 เว็บไซต์ เป็นต้น
ความหมายและหน้าที่ของ Web Hosting
ถ้าแปลกันแบบชาวบ้านๆ ให้เข้าใจง่ายๆ เจ้านี่มันก็คือที่เก็บเว็บไซต์นั่นเอง ซึ่งคนที่จะทำเว็บทุกคนจะต้องไปเช่าพื้นที่กับผู้ที่ให้บริการ Web Hosting ซึ่งจริงๆ มันก็คือคนที่รับสัมปทานที่แบ่งมาจาก Web Server อีกที โดยแบ่งออกมาเป็นแพ็กเกจ สมมุติเป็นแพ็กเก็จ 1 GB ก็เท่ากับว่าเว็บของคุณมีพื้นที่ 1 GB เป็นต้น โดยปกติแล้วหากเป็นเพียงแค่การทำเว็บธรรมดาอย่างที่เราทำกันทั่วไปก็คงไม่มีใครกล้าไปถึงขนาดเช่า Web Server อย่างแน่นอน นอกเสียจากว่าเว็บของคุณคือเว็บอภิมหามหึมาที่ต้องการพื้นที่จำนวนมหาศาลจริงๆ
ความแตกต่างระหว่าง Web Server กับ Web Hosting
ในความเป็นจริงสำหรับความหมายของทั้ง 2 ตัวนี้มันก็แทบจะไม่ได้มีความแตกต่างอะไรกันมากนักเลยขึ้นอยู่กับความต้องการใช้งานของแต่ละคนว่าต้องการใช้งานในลักษณะไหนมากกว่ากันเท่านั้นเอง ในการทำงานก็คือมาในรูปแบบที่เหมือนๆ กัน